วันที่ 26 กันยายน 2561 นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ประชาชนมีการร้องเรียนให้ ธปท. ตรวจสอบสาขาของธนาคารกรุงไทยและธนาคารไทยพาณิชย์ ว่ามีการบังคับให้ลูกค้าทำประกันอัคคีภัย สำหรับหลักประกันของสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับบริษัทประกันภัยบริษัทใดบริษัทหนึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจง โดยลูกค้าไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกทำประกันภัยกับบริษัทอื่นตามความสมัครใจนั้น

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ธนาคารทั้ง 2 แห่ง มีความผิดจริง จึงมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับธนาคารกรุงไทย เป็นจำนวนเงิน 3,540,000 บาท และปรับธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นจำนวนเงิน 3,210,000 บาท อย่างไรก็ดี หลังจากที่ ธปท. ได้แจ้งผลการสุ่มตรวจสอบดังกล่าว ทั้งสองธนาคารได้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการขายและการให้บริการแล้ว

โดย ธปท. จะให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลสถาบันการเงินในเรื่องการบริหารจัดการด้านการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market conduct) มุ่งเน้นให้ประชาชนได้รับบริการทางการเงินที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการ ซึ่งได้กำชับให้สถาบันการเงินยกระดับการบริหารจัดการเรื่องดังกล่าว และจะสุ่มตรวจสอบธุรกรรมและระบบการบริหารจัดการของสถาบันการเงินในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อความโปร่งใสและการพัฒนาคุณภาพการให้บริการในระยะต่อไป

ขณะเดียวกัน จากประเด็นดังกล่าว ธนาคารไทยพาณิชย์ ก็ได้ออกมาระบุว่า ธนาคารตระหนักเรื่องให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ขอน้อมรับความผิดที่เกิดขึ้น และได้ดำเนินการแก้ไขอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดอีกในอนาคต

ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารให้ความสำคัญกับความสะดวกของลูกค้า ทำให้การเสนอบริการประกันอัคคีภัย จึงมีบางสาขาเสนอบริการและผลิตภัณฑ์เฉพาะของบริษัทในเครือที่คัดสรรว่ามั่นคงแล้ว อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ธนาคารได้สั่งทุกสาขาอย่างเด็ดขาดไม่ให้เสนอผลิตภัณฑ์ของบริษัทในเครืออย่างเดียวเท่านั้น เพื่อให้ลูกค้ามีสิทธิ์เลือกได้ตามความต้องการ